Author: ศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร

ผญาฮีตในเดือนสี่ ให้คอยซอมไปทางหน้า เดือนสิมาเป็นเดือนสี่ หลังจากบุญข้าวกี่สิมีบุญพระเวสเจ้า เฮาสิได้แต่งทาน โขงเขตบ้านย่านถิ่นดินอีสาน สุขสำราญเหลือหลาย ม่วนยินกะเลยต้อน ตกหว่างตอนคนตั้ง ใจฟังวอนวี่ ตอนกัณหาชาลี สิพรากพ่อแม่แก้วคนสิไห้นั่งฟัง มีเพียงปีละครั้ง ให้เฮาซ่อยกันสาน จัดเป็นงานประเพณี ให้คนฮุ่นหลังฮู้ “ โดย ดวงเดือน ไชยโสดา.. โพสต์เมื่อ 25 มีนาคม 2568, 14.11 น. โดย ดวงเดือน ไชยโสดา
Read more
    หม่ำไข่ปลา อีสานเป็นภูมิภาคที่มีความแห้งแล้ง ในหน้าแล้งอาหารการกินตามธรรมชาติหายาก การหมักดองอาหารไว้กินในยามจำเป็นจึงเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับอาหารหมักดองที่ทำกันในวิถีชีวิตของคนอีสาน คือ ปลาร้า นอกจากเนื้อปลานำมาทำปลาร้าและปลาส้มแล้ว ไข่ปลาที่เหลือยังนำทำหม่ำไข่ปลา ไว้รับประทานได้อีกด้วย ซึ่งเป็นวิธีการถนอมอาหารด้วยการหมัก ขั้นตอนการทำหม่ำไข่ปลาเหมือนกับการทำปลาสัม รสชาติของหม่ำไข่ปลาจะออกรสเปรี้ยว เค็ม และต้องปรุงสุกก่อนการรับประทาน ไข่ปลาตะเพียน      1.5 กิโลกรัม ข้าวเหนียวนึ่งสุก          2 ขีด กระเทียมโขลก    1.5 ขีด เกลือ                     3 ช้อนโต๊ะ ผงชูรส      
Read more
ผญาปรัชญาชีวิต คำผญาที่มีความหมายเป็นปรัชญา เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ของผู้คนในสังคมเป็นผญาาที่มีความหมายลึกซึ้ง ดังนั้นในบทนี้จึงเพิ่มความหมายแฝงเร้นไว้เพื่อให้ ผู้อ่านได้เข้าใจความหมายของแต่ละข้อความให้กระจ่างยิ่งขึ้นเพราะถ้าแปลตามตัวอักษร ค จะเป็นอีกอย่างหนึ่งอาจไม่ได้อรรถรส ผญาปรัชญาชีวิตจะมีปรากฏแทรกอยู่ในหนังสือวรรณกรรมต่างๆ ทางภาคอีสานและของ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อาทิ เช่น หนังสือเสียวสวาสดิ์ สังข์ศิลปชัย สึบบ่สูญ ฯลฯ “กบเขียดอ้อง ปะสงอ่านโคงสาน ฝูงหมู่งูเพาพิด เงือกกัวเกงย้าน” คำแปล กบและเขียดต่างอวดเก่ง อวดรู้ พากันอ่านหนังสือประเภทโคลงฉันท์ กาพย์กลอน จนพวกงูเงือกเกรงกลัวไปหมด ความหมายแฝงเร้น สังคมเน่าเหม็นนี้เป็นสังคมที่คนชั่ว คนไร้ศีลธรรมมีอำนาจมากจนเป็นที่เกรงยามของเหล่าคนดีมีศีลธรรมและคุณธรรม การใช้ เป็นคติให้รู้ว่าสภาพของสังคมเปลี่ยนไปสู่ยุคคนชั่วครองเมืองคนดีต้อง ระมัดระวังตัว มิฉะนั้นคนดีอาจถูกฆ่าทิ้งได้ง่ายๆ เอกสารอ้างอิง : วัฒนธรรมอีสาน : 100 ปี ชาตกาลคำดี สาระผล .(2555).โรงพิมพ์พระธรรมขันต์ ดวงเดือน ไชยโสดา…..
Read more
ฮีตในเดือนสาม ” ฮอดเดือนสามท้องฟ้า ปลอดโปร่งสดใส ไปทางใด๋เห็นแต่คนใจบุญ ซะแซวเป็นคุ้ม เหลียวเห็นซุมสาวน้อย พากันปั้นข้าวกี่ เฮือนละสี่ห้าปั้น พอได้เข้าใส่บุญ พ่องกะบีบข้าวปุ้น ตกแต่งอาหาร มีเทิงหวานและคาว หนุ่มสาวมาโฮมต้อม “
Read more
       พระธาตุนาดูน พุทธมณฑลอีสาน อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม พระธาตุนาดูน พุทธมณฑลแห่งอีสาน ตั้งอยู่ ณ โคกดงเค็ง ที่ป่าสาธารณ ตำบลพระธาตุ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม ในเนื้อที่ 902 ไร่ ซึ่งอยู่ห่างจากที่ขุดพบไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 2 กิโลเมตร หรือ อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอนาดูน ไปทางทิศใต้ประมาณ 1 กิโลเมตร   ในปีพุทธศักราช 2522 กรมศิลปากรและราษฏร ในตำบลนาดูน ได้ขุดพบพระบรมสารีริกธาตุจากเนินดิน ซึ่งเป็นซากโบราณสถานในบริเวณที่นาของราษฏรท้องที่หมู่ที่ 1 ตำบลนาดูน อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม พระบรมสารีริกธาตุมีสัณฐานดังเกล็ดแก้วประดิษฐานในผอบ 3 ชั้น ชั้นในเป็นทองคำ ชั้นกลางเป็นเงิน ชั้นนอกเป็นสำริด ซ้อนกันเรียงตามลำดับ และบรรจุอยู่ในสถูปจำลองอีกชั้นหนึ่ง 
Read more
ฮูปแต้ม (จิตรกรรมฝาผนัง) : วัดป่าเลไลย์ มหาสารคาม ความเป็นมาของ ฮูปแต้ม (จิตรกรรมฝาผนัง) วัดป่าเลไลย์ วัดป่าเลไลย์ ตั้งอยู่ที่บ้านหนอกพอก ตำบลดงบัง อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม สร้างขึ้นราวปี พ.ศ.2224 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ.2460 วัดแห่งนี้เดิมมีชื่อว่า วัดบ้านหนองพอก ต่อมาในปี พ.ศ. 2485 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดป่าเลไลย์ ภายในวัดมีสิมซึ่งไม่ปรากฎหลักฐานว่าสร้างในสมัยใด ตัวสิมเป็นอาคารแบบก่ออิฐถือปูนทรงสี่เหลียมผืนผ้าแบบทึบ นับเป็นสิมพื้นบ้านบริสุทธิ์ที่มีลักษณ์เฉพาะ มีเสารับปีนก หลังคาทรงจั่วชั้นเดียว มีปีกนกคลุมโดยรอบ หน้าบันทำเรียบมีซานจั่ว ตัวสิมยกสูงจากฐาน บนฐานมีระเบียงล้อมรอบ ทางขึ้นเป็นบันไดนาค ศิลปะพื้นบ้านแบบอีสาน มีประตูทางเข้าหนึ่งช่องอยู่ทางด้านทิศตะวันออก ผนังด้านข้างเจาะเป็นช่องหน้าต่างแคบ ๆ เป็นช่องแสง ข้างละ 2 ช่อง ไม่มีบานหน้าต่าง บนฝาผนังมีภาพเขียนทั้งด้านนอกและด้านใน สิมวัดป่าเลไลย์  
Read more
เรียนรู้ภูมิปัญญาผญาภาษิต ผญาภาษิต : ในดงบ่มีไม่ เอาอันได๋มาเป็นป่า มีหนองบ่มีหย่าป้อง ปาสิบ้อนอยู่บ่อนได่   คำแปล : ถ้าดงไม่มีป่าไม้ แล้วจะเป็นดงได้อย่างไร เป็นหนองแต่ไม่มีหญ้าปล้อง ปลาจะอาศัยหุบเหยื่ออยู่หม่องได่ การใช้ : ใช้เป็นคติสอนให้คนเราพึ่งพาซึ่งกันและกัน เฮาทุกคนล้วนอยู่ในสังคมที่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน การแสดงน้ำใจไมตรี หรือเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน จะช่วยพัฒนาสังคมเราให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น… ดวงเดือน ไชยโดสา…post
Read more
รายการออนซอนอีสาน  อะเมซิ่งสายมูอีสาน  “พญานาค 3 พิภพ” มุกดาหารดินแดนแห่งศรัทธาเมืองลุ่มน้ำโขง  จังหวัดมุกดาหาร ดวงเดือน ไชยโสดา… post
Read more
ฮีตที่ 9 บุญข้าวประดับดิน หรือ บุญข้าวประดับดิน   ความหมาย  “เข่าประดับดิน หรือ เข้าประดับดิน” (ข้าวประดับดิน)   คือ “บุญที่ทำในวันแรมสิบสี่ค่ำเดือนเก้า ป็นการนำข้าวหลาอาหาร หวานคาว อย่างละนิดละน้อย แล้วห่อด้วยใบตองกล้วยทำเป็นห่อๆ นำไปวางไว้ตามโคนต้นโพธิ์ หรือต้นไม้ใหญ่ในวัด และตามพื้นดินบริเวณรอบๆ เจดีย์หรือโบสถ์” มูลเหตุที่ทำ เนื่องจากคนลาวและไทอีสานมีความเชื่อสืบต่อกันมาแต่โบราณแล้ว่า กลางคืนของเดือนเก้าดับ (วันแรมสิบสี่ค่ำเดือนเก้า)  ตรงกับวันเสาร์ที่ 12 กันยายน 2558 เป็นวันที่ประตูนรกเปิด ยมบาลจะปล่อยให้ผีนรกออกมาเยี่ยมญาติในโลกมนุษย์ ในคืนนี้คืนเดียวเท่านั้นในรอบปี ดังนั้นจึงพากันจัดห่อข้าวไว้ให้แก่ญาติพี่น้องที่ตายไปแล้วถือว่าเป็นงานบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ญาติพี่น้องผู้ล่วงลับไปแล้ว พิธีกรรม ในตอนเย็นของวันแรม 13 ค่ำเดือนเก้า แม่บ้านแม่เรือนทุกครัวเรือนจะ “ห่อข้าวน้อย” ซึ่งมีวิธีห่อดังนี้ ฉีกใบตองออกให้มีขนาดเท่าหนึ่งฝ่ามือ ส่วนความยาวนั้นให้ยาวสุดซีกของใบกล้วย นำเอาข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้วปั้นเป็นก้อนเล็กๆ ขนาดเท่าหัวแม่มือวางบนใบตองที่จะห่อ จากนั้นแกะเนื้อปลา 
Read more
ลักษณะของฮูปแต้ม ฮูปแต้ม หรือจิตรกรรมฝาผนัง ที่ปรากฏบนผนังของสิมซึ่งเป็นชื่อเรียกศาสนาคารของคนอีสาน มีการเขียนฮูปแต้มทั้งด้านในและด้านนอกสิม บางแห่งมีทั้งสองด้าน บางแห่งมีเพียงด้านเดียว ส่วนเรื่องราวของฮูปแต้ม และตำแหน่งของผนังที่วาดนั้นไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว ส่วนมากเป็นเรื่องพุทธประวัติ ทศชาดกเวสสันดร อดีตพระพุทธเจ้า พระมาลัย นิทานพื้นบ้านเรื่องต่างๆ และมีวิถีชีวิตของชาวบ้านเป็นเกร็ดย่อยแทรกอยู่ในภาพที่เป็นเรื่องหลัก การวางเรื่องราวอาจไม่เป็นไปตามลำดับเหตุการณ์    2. การแบ่งพื้นที่ในการวาด สำหรับพื้นที่ใหญ่ๆ เช่น ผนังรีทั้งด้านในและด้านนอกที่ไม่ติดเสา มักจะแบ่งโดยใช้เส้นหนาทึบเป็นเส้นแบ่ง บางภาพจะใช้เส้นแบ่งนี้เป็นพื้นดินหรือภูเขาไปในตัว ไม่ใช้เส้นสินเทาอย่างรูปวาดของช่างหลวง การวางเรื่องราวขึ้นอยู่กับโครงสร้างของสิม    3. ฮูปแต้มมีลักษณะเป็นสองมิติ แบนเรียบ การแสดงระยะใกล้ไกลของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มักจะแสดงด้วยการวางรูปให้คาบเกี่ยวกัน บังกัน ซ้อนกัน มีการสร้างบรรยากาศด้วยสีสันน้อยมาก เพราะขาดแคลนสี ช่างแต้มอาศัยเส้นหนา เส้นบาง เน้นระยะ เน้นเรื่องราว และเน้นบรรยากาศ เช่น บริเวณที่ต้องการให้ดูยุ่งเหยิงวุ่นวาย อาจขีดเส้นสั้นๆ ถี่ๆ 
Read more
075677