บุญคูณลาน : หัวใจแห่งศรัทธาสู่ขวัญข้าวและวิถีชีวิตชาวอีสาน

บุญคูณลาน :

 

หัวใจแห่งศรัทธาสู่ขวัญข้าวและวิถีชีวิตชาวอีสาน

 

 

“บุญคูณลาน” ประเพณีสำคัญของชาวนาอีสาน** ที่สะท้อนให้เห็นถึง **ความเชื่อเรื่องข้าว** และความกตัญญูต่อผืนแผ่นดิน นี่ไม่ใช่แค่การทำบุญทั่วไป แต่เป็นการถอดรหัสจิตวิญญาณแห่งขวัญข้าว ที่สืบทอดกันมานับร้อยปี และเป็นรากฐานสำคัญของวิถีชีวิตชาวอีสานอย่างแท้จริง

บุญคูณลาน** หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า “บุญกุ้มข้าวใหญ่” คือ พิธีกรรมที่ชาวอีสานจัดขึ้นหลังฤดูเก็บเกี่ยว เพื่อเป็นการทำบุญข้าวเปลือกที่ได้จากการทำนา และอุทิศส่วนกุศลให้แก่พระแม่โพสพ เจ้าที่เจ้าทาง เทพารักษ์ ตลอดจนบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว

    คำว่า “คูณลาน” มาจาก “คูณ” ที่แปลว่า เพิ่มพูน ทำให้มากขึ้น และ “ลาน” คือ ลานนวดข้าว 

บุญคูณลาน หมายถึง การทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล ขอให้ผลผลิตข้าวเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ในปีต่อๆ ไป สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาอีสาน และความเชื่อ ที่ผูกพันกับการเกษตรมาอย่างยาวนาน

สู่ขวัญข้าว: จิตวิญญาณแห่งความกตัญญู

  หัวใจสำคัญของ บุญคูณลาน คือการ สู่ขวัญข้าว ซึ่งเป็นความเชื่อเรื่อง “ขวัญ” หรือจิตวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ในทุกสรรพสิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน “ข้าว” ซึ่งเป็นธัญญาหารหลักหล่อเลี้ยงชีวิต การทำพิธีสู่ขวัญข้าวก็เพื่อเป็นการเรียกขวัญข้าวที่อาจพลัดหลงไปในระหว่างการเก็บเกี่ยว ให้กลับมารวมกันอย่างสมบูรณ์ในยุ้งฉาง

    ชาวนาอีสาน เชื่อว่าข้าวมี “ขวัญ” เฉกเช่นเดียวกับมนุษย์ เมื่อต้องเก็บเกี่ยว ตัดรวง หรือนวดข้าว ขวัญข้าวอาจตกใจและหนีหายไปได้ การสู่ขวัญข้าวคือการแสดงความเคารพ ความขอบคุณ และขออภัยต่อพระแม่โพสพที่ต้องรบกวนท่าน เพื่อให้ข้าวเปลือกอยู่เป็นมิ่งขวัญและนำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์ ข้าวไม่ลดหาย ไม่ฝ่อ และเพียงพอต่อการบริโภคตลอดทั้งปี

 องค์ประกอบสำคัญของบุญคูณลาน 

บุญคูณลาน จัดขึ้นในช่วงเดือนยี่ถึงเดือนสาม (ราวเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์) หลังจากที่เก็บเกี่ยวข้าวเสร็จสิ้น โดยมีขั้นตอนและองค์ประกอบที่น่าสนใจดังนี้:

  1. การเตรียมลาน ชาวบ้านจะรวมตัวกันนำข้าวเปลือกที่นวดแล้วมากองรวมกันเป็นเจดีย์ข้าวเปลือกขนาดใหญ่ ณ ลานวัด หรือลานกลางหมู่บ้าน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีและผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์
  2. **นิมนต์พระสงฆ์:** พระสงฆ์จะเดินทางมาเจริญพระพุทธมนต์รอบกองข้าวเปลือก เพื่อความเป็นสิริมงคล และปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย
  3. พิธีสู่ขวัญข้าว  เป็นหัวใจของงาน โดยอาจมีพราหมณ์ หรือปราชญ์ชาวบ้าน ผู้มีความรู้เรื่องพิธีกรรมเป็นผู้ทำพิธี กล่าวคำเชิญขวัญข้าว เชิญพระแม่โพสพ ด้วยเครื่องบูชาต่างๆ เช่น ดอกไม้ ธูปเทียน ข้าวตอก อาหารคาวหวาน และที่ขาดไม่ได้คือ “บายศรีสู่ขวัญ” ที่ประดิษฐ์อย่างสวยงาม
  4. การถวายข้าวเปลือก  ชาวบ้านจะนำข้าวเปลือกของตนเองมาร่วมทำบุญ บางส่วนจะนำไปถวายวัดเพื่อเป็นเสบียงแก่พระสงฆ์ บางส่วนอาจนำไปจำหน่ายเพื่อนำรายได้มาบำรุงวัด หรือใช้จ่ายในกิจกรรมสาธารณะของหมู่บ้าน
  5. การเทศน์มหาชาติ  ในบางพื้นที่ อาจมีการจัดให้มีเทศน์มหาชาติควบคู่ไปกับการทำบุญคูณลาน เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ฟังธรรม และสั่งสมบุญกุศล

ความสำคัญของบุญคูณลานในปัจจุบัน: มรดกทางวัฒนธรรมที่ต้องอนุรักษ์

แม้ปัจจุบันสังคมจะเปลี่ยนแปลงไปมาก การทำนาอาจไม่ใช่วิถีชีวิตหลักของคนรุ่นใหม่ในทุกครัวเรือน แต่ บุญคูณลาน ก็ยังคงดำรงอยู่และมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อวัฒนธรรมอีสาน

ด้วยเหตุผลหลายประการ:

  • เสริมสร้างความสามัคคี  เป็นโอกาสที่คนในชุมชนได้มารวมตัวกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สร้างความผูกพันในหมู่บ้าน
  • รักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นการย้ำเตือนถึงความสำคัญของธรรมชาติ ผืนแผ่นดิน และทรัพยากรที่หล่อเลี้ยงชีวิต

       – ปลูกฝังคุณธรรม สอนให้ลูกหลานรู้จักความกตัญญู รู้คุณของข้าว อาหาร และผู้มีพระคุณ

– สืบทอดภูมิปัญญาถ่ายทอด ความเชื่อและ พิธีกรรมที่เป็นเอกลักษณ์จากรุ่นสู่รุ่นสร้างความมั่นคงทางอาหารเป็นการกระตุ้นเตือนให้เห็นคุณค่าของข้าว ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุด

บุญคูณลาน สู่ขวัญข้าวชาวอีสาน

จึงไม่ใช่เพียงแค่ประเพณีเก่าแก่ แต่เป็นกระจกสะท้อนจิตวิญญาณอีสานที่เปี่ยมด้วยศรัทธา ความกตัญญู และความผูกพันกับธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง การได้เรียนรู้และเข้าใจ พิธีกรรม นี้ จะทำให้เราเห็นคุณค่าของ วัฒนธรรมไทย และ วิถีชีวิตชาวนา ที่ยังคงงดงามและมีคุณค่าอย่างหาที่สุดมิได้

 

เอกสารอ้างอิง

นาค สามโลก. (2015). ฮีตเดือนยี่. ทางอีศาน, 3(33), 92–100.

สุนทร ชัยรุ่งเรือง. (2015). ประเพณีเดือนยี่ (เดือนสอง). ทางอีศาน, 3(33), 90–91.

วัชรินทร์ เขจรวงศ์. (2545). ‘บุญคูณลาน’ วัฒนธรรมล้ำค่าสืบทอดตำนานประเพณีอีสาน. อาทิตย์วิเคราะห์, หน้า 23.

ธนิษฐา แดนศิลป์. (2553). บุญคูนลาน: คืนสู่รากเหง้าภูมิปัญญาอีสาน. กรุงเทพธุรกิจ, หน้า 8.

 

รวบรวมโดย อรทัย โคตรธาดา

โพสต์เมื่อ 27 พฤศจิกายน 2568, 13.10 น. โดย อรทัย โคตรธาดา